วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

Ranong























จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นจวนของเจ้าเมืองระนองคนแรก คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือท่านคอซูเจียง  สร้างในสมัยพระยาดำรงสุจริตมหิศร ภักดี ผู้สร้างคือพระยาดำรงสุจริตมหิศรภัคดี บุตรชายคนที่สองของท่านคอซู้เจียง   จวนเจ้าเมืองสร้างด้วยอิฐสอปูนสดแบบจีน โครงบนทำด้วย ไม้หลังคามุงกระเบื้อง ตั้งอยู่ภายในไม่ไกลจากประตูทางเข้ามากนัก และเมื่อสร้างจวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าเมืองเห็นว่าบริเวณตรงที่สร้างนั้นไม่ เหมาะสม ที่จะพักอาศัย เหตุเพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้ามากเกินไป จึงใช้เรือนหลังนี้เป็นเรือนรับรองส่วนจวนเจ้าเมืองหลังใหม่ที่สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยนั้น อยู่ลึกเข้าไปด้านหลัง เป็นอาคารเชื่อมต่อกัน 3 หลัง คงเหลือเพียงพื้นและเสา  





ภายในจวนเจ้าเมืองระนองเป็นบ้านพักอาศัยของลูกหลานในสกุล ณ ระนอง หลายครอบครัว บ้านพักส่วนหนึ่งได้รับการบูรณะปรุงปรุงเป็นอาคารชั้นเดียว เพื่อใช้เป็นศาลบรรพบุรุษ และใช้ประกอบพิธีสักการะบูชาป้ายบรรพบุรุษตามประเพณี ป้ายหน้าศาลบรรพบุรุษ มีความหมายว่า"ดวงตะวันอันสูงส่ง" บ้านนี้มากด้วยขุนนาง บ้านนี้มากด้วยแก้วแหวนเงินทองภายในอาคารส่วนหน้า มีเก้าอี้และโต๊ะไม้แกะฝังมุก 4 ชุด ใช้รับรองแขกกลางห้องมีโต๊ะสักการะ บูชาป้ายบรรพบุรุษพวงหรีดเงินและพวงหรีดทองที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และภริยาที่ส่งมาแสดงความคาราวะเมื่อครั้งงานพิธีศพท่าน คอซู้เจียง กล้องยาสูบของท่านคอซู้เจียง และ แจกันโบราณขนาดเล็ก 1 คู่ ซึ่งเคยมีบุกรุกเข้ามาขโมยไปขาย และทางญาติต้องติดตามคืนมา และยังมีอาวุธ โบราณ หีบเหล็ก แจกันประดับขนนกยูง โคมไฟแบบเดียวกับที่ใช้ที่พระที่นั่งรัตนรังสรรค์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานคำ จารึกเกียรติประวัติพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ซึ่งเดิมตั้งเป็นสง่าอยู่ที่สุสานของเจ้าเมืองระนอง และถูกรถดัมพ์ของคณะเทศมนตรี เมืองระนองถอยหลังมาชนแตกเป็นสามเสี่ยง ใน พ.ศ. 2533 และได้ทำป้ายป้ายใหม่ไปติดตั้งแทน ซึ่งไม่สามารถทดแทนคุณค่า ความรู้สึก ความภาคภูมิ และเกียรติภูมิของวงศ์ตระกูลของครอบครัวสกุล ณ ระนอง และชาวระนองที่เคารพบูชาในเจ้าเมืองระนองท่านนี้ ผนังอาคารประดับ ด้วยภาพวาดและรูปถ่ายของครอบครัวในสกุล ณ ระนอง ที่รับราชการจนมีชื่อเสียงปรากฎ ภาพวาดของพระที่นั่งรัตนรังสรรค์ และเอกสาร หนังสือ หนังสือพิมพ์ รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใน สกุล ณ ระนอง อีกมาก  


จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นแหล่งโบราณสถานแห่งหนึ่งที่สำคัญของระนอง ซึ่งปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราญสถาน ภายในสงบ ร่มรื่นในระหว่างวันที่ 20-22 กรกฎาคมของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งบริเวณจวนเจ้าเมือง เนื่องจากเป็นวันครบรอบการ พระราชทานนามเมืองระนอง

           









สุสานเจ้าเมืองระนอง
สุสานเจ้าเมืองระนอง สร้างในปี พ.ศ. 2426 เป็นสุสานของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) อดีตเจ้าเมืองระนองโดยบริเวณ สุสานเป็นที่ดิน ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้แก่ตระกูล ณ ระนอง ที่ คอซู้เจียง เป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่ หลวง  ชาวบ้านเรียกท่านว่า เจ้าคุณเฒ่า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในท้องถิ่น เป็นตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้ง ๆ ที่อพยพมา จากประเทศจีน เข้ามาเป็นกรรมกรรับจ้าง จนได้ตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง ก็เพราะเป็นคนที่มีความกตัญญูกตเวที ซื่อตรง อดทน มัธยัสถ์ รอบรู้ และมอง การณ์ไกล รู้จักการจัดการและการแก้ปัญหาทำประโยชน์ให้แผ่นดินอย่างมากเป็นแบบฉบับสำหรับข้าราชการทั้งหลาย อีกทั้งยังมีลูกหลานอยู่ในโอวาท ของบิดามารดาจนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนได้เป็นใหญ่ในภาคใต้อีกหลายคน จึงเป็นบุคคลที่น่าชื่นชมเอาเยี่ยงอย่างท่าน สุสานเจ้าเมืองระนอง จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดระนองต้องมาเยือน 



สุสานเจ้าเมืองระนอง ตั้งตามหลักการฮวงซุ้ยหลังติดเขาหันหน้าออกสู่ทะเล ระหว่างทางจากทางเข้าถึงสุสาน ประดับด้วยบริวารตามหลัก ฮวงจุ้ยศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย
รูปปั้นขุนนางฝ่ายบู้ หมายถึง นักรบ ทหาร ความมั่นคงเข็มแข็งของตระกูลและเมือง
รูปปั้นขุนนางฝ่านบุ๋น หมายถึงบัณฑิต นักปราชญ์ สติปัญญา
รูปปั้นแพะ หมายถึง โภคทรัพย์ ความโอบอ้อมอารี
รูปปั้นเสือ หมายถึง พลังอำนาจ ความยิ่งใหญ่
รูปปั้นม้า หมายถึง ความรวดเร็ว ปราดเปรียว การค้าขายที่คล่องแคล่ว
เสาศิลา 2 ต้น หมายถึง สรรเสริญความงดงามของเมืองระนอง ความเป็นเมืองสงบ ความร่มเย็นเป็นสุข ความเป็นเมืองอัจฉริยบุคคล
                             



บ่อน้ำร้อน สวนสาธารณะรักษะวาริน


 บ่อน้ำร้อน สวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์สามารถรับทานได้จากแหล่งกำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่น กรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์จึงเป็นแหล่งหนึ่ง ที่นำไปผ่าน พิธีพุทธาภิเษก ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัดรักษาสุขภาพ่ที่ สยามฮอทสปา ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการบำบัดจากน้ำแร่ ด้านนอกมีบริการแช่เท้าฟรีเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้ ๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย



ภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัดรักษาสุขภาพอีกด้วย มีบริการแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้ยัง มีบริการผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการบำบัดจากน้ำแร่ที่ สยามฮอทสปา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน บริเวณใกล้ ๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย







ปัจจุบันแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ ซึ่งเป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดของจังหวัดระนอง เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งชุมชน และมี ศักยภาพสูง ได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีการจัดสร้าง ตกแต่ง สวนหย่อมต่าง ๆ ไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน




1.บ่อพ่อ
เป็นบ่อปูนซีเมนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อน้ำร้อนทั้งสามบ่อ มีลักษณะเป็นบ่อวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง ของบ่อ ขนาด 2.80 เมตรสูงจากผิวดิน 0.80 เมตร ลักษณะของน้ำร้อน น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใสมีฟองก๊าช คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ที่ผุดขึ้นมาจากก้นบ่อสู่ผิวน้ำค่อนข้างน้อย ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่ายน้ำร้อนจะไหลล้น ออกนอกบ่อตลอดเวลา ทำให้บริเวณบางส่วนของปากบ่อและผนังบ่อน้ำด้านนอกมีการสะสมตัวของแร่แคลไซต์ ซึ่งเป็นแร่ที่มีขนาดผลึกละเอียดมาก แร่ชนิดนี้เป็นแร่อัลเทอร์เรชั่น ที่สำคัญชนิดหนึ่ง อุณหภูมิของน้ำร้อนวัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่า วัดได้ประมาณ 8 อัตราการไหลของน้ำร้อนที่บ่อพ่อวัดได้ประมาณ 3.5 ลิตร/วินาที หรือประมาณ 12.6 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง แสดงลักษณะของบ่อน้ำพุร้อน (บ่อพ่อ) รายล้อมด้วยสวน หย่อมและพุ่มไม้

2.บ่อแม่
เป็นบ่อปูนซีเมนต์เช่นเดียวกับบ่อพ่อ แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของบ่อขนาด 1.50 เมตร และสูง จากผิวดิน 0.85 เมตรลักษณะของบ่อน้ำพุร้อน น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใส มีฟองก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ผุดขึ้น มา เป็นจังหวะ ๆ และมีปริมาณมากกว่าบ่อพ่อ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่าย อุณหภูมิของน้ำร้อน วัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่างวัดได้ประมาณ 8 มีแร่อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อยที่ด้านในของผนังบ่อ ระดับของน้ำร้อนอยู่ต่ำจากปากบ่อลงไป 0.48 เมตร ไม่สามารถวัดอัตราการไหลของน้ำร้อนได้


3.บ่อลูกสาว
เป็นบ่อปูนซีเมนต์เช่นเดียวกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางของบ่อขนาด 2.00 เมตร และสูงจาก ผิวดิน 0.90 เมตร ลักษณะ ของบ่อน้ำพุร้อน (บ่อลูกสาว) น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใส มีฟองก๊าชคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ผุดขึ้นมายังผิวน้ำ มากกว่า สองบ่อแรกไม่มีกลิ่น กำมะถัน ไม่มีสาหร่าย อุณหภูมิของ น้ำร้อน วัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็น กรดด่าง วัดได้ประมาณ 8 มีแร่อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อยที่ด้านในของผนังบ่อ เช่นเดียวกับบ่อแม่ ระดับน้ำร้อนอยู่ต่ำ จากปากบ่อลงไป 0.1 เมตร ไม่สามารถวัดอัตราการไหลของน้ำร้อนได้


1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากเส้นทางหลวงหมายเลข 4 ให้เลี้ยวเข้ามาตามทางหลวงหมายเลข 4005 ประมาณ 1 กม. ไปทางทิศตะวันออก ก็จะพบกับ สวนสาธารณะรักษะวาริน
  
ภูเขาหญ้าสองสี เป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น ในฤดูฝนมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือ สู่ทิศใต้ ภูเขาที่เต็มไปด้วยหญ้า ต่างสีต่างวันเวลา และเนินเขางดงาม ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับ นักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและชมความมหัศจรรย์ยามเย็น เมื่อแสงอาทิตย์จะลับขอฟ้าภูเขาทั้งลูกจะกลายเป็นสีทอง  ทอง เหลืองงามอร่ามตา  จึงนิยมเรียกกันว่า "ภูเขาหญ้าสองสี”เรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังต้องยกให้เป็นหนึ่งใน อันซีนอินไทยแลนด์อีกแห่งหนึ่ง














  วันเวลาที่แนะนำ 
ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 
ภูเขาหญ้าสีเขียว พบได้ในฤดูฝนตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-ตุลาคม 
ภูเขาหญ้าสีทอง พบได้ในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-เมษายน









1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองระนองมาตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา)สู่จังหวัดพังงาประมาณ 12 กม.จะเห็นภูเขาหญ้า อยู่ทางขวามือตรงข้ามน้ำตกหงาว

ระนองแคนย่อนตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งคา ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง อยู่ห่างจากวัดหาดส้มแป้นประมาณ 3 ก.ม.ห่างจาก ตัวเมืองประมาณ 15 กม. โดยใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนรักษะวริณลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวจะมีความ สวยงามแปลกตา  คือ เป็นสระน้ำขนาดย่อม ที่โอบล้อมด้วยหุบเขาเหตุที่ที่นี่เป็นแอ่งน้ำล้อมภูเขาแบบนี้เนื่องมา จาก ที่นี่เคยเป็นเหมืองแร่เก่ามาก่อน ลักษณะเป็นเหมืองแบบฉีดโดยฉีดน้ำให้กัดเซาะดินปนแร่จากตัวภูเขาให้ลง มาสะสม ในแอ่งน้ำด้านล่าง หลังจากนั้นก็จะสูบน้ำในแอ่งขึ้นตามท่อเพื่อนำมาผ่านกระบวนการทางกายภาพ เพื่อ ทำการแยกแร่ ออกจากทรายที่ไม่มีค่าทำให้สภาพภูเขาเกิดลักษณะเว้าๆ แหว่งๆ สวยงามแปลก


ระนองแคนย่อน เดิมเรียกว่า‘บึงมรกต’เพราะเมื่อมองจากเนินเขาข้างบนลงมาจะเห็นน้ำในบึงใสแจ๋วสะท้อนสีของ ฟ้า และต้นไม้เป็นสีเขียวอมฟ้าดุจดังมรกต ส่วนปรากฏการณ์เกิดหมอกไล่น้ำยามเช้านั้นเกิดจากการคายน้ำของ ต้นไม้ใน บริเวณนี้นั่นเอง









ระนองแคนย่อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกจุดหนึ่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งในยามเช้าและ ยามเย็น ในสถานที่ที่ชาวระนองนิยมไปนั่งพักผ่อน มีพื้นที่ที่แวดล้อมไปด้วยภูเขา หินขาว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ในบริเวณ บ้านหาดสมแป้นซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ในการทำแก้ว จาน ชาม กระเบื้อง และเครื่องสุขภัณฑ์ ซึ่งหากใน บรรยากาศ ยามเช้าสามารถนั่งชม น้ำไล่หมอกได้ที่ระนองแคนย่อน เพราะในกระแสน้ำของบึงยามเช้ามีสายหมอก ล่องลอยระเหย ขึ้นเมื่อได้สัมผัสกับแสงแดดอันอบอุ่น ยามเช้า สามารถให้อาหารปลา ที่อาศัยอยู่ในบึงน้ำได้ ปลาที่อาศัยอยู่ได้แก่ ปลาพลวง ปลาตะเพียนแดงปลาดุก ฯลฯ มีร้านค้าจำหน่ายอาหารปลาอยู่บริเวณใกล้เคียง กับระนองแคนย่อน

ระนองแคนยอนตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนรักษะวริณ ไปทางเส้นทางเดียวกับวัดหาดส้มแป้น ไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร ก็จะถึงระนองแคนยอน





พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)  ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง)เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การ เสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง)ตำบลเขานิเวศน์ เป็นพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง สิ่งที่จัดแสดงภายในพระราชวังฯ ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ชั้น 3)ห้องพระราชินี (ชั้น 2)  มีจำนวน 6ห้อง อาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม ถือเป็นพระราชวัง ที่มีการประกาศพระบรมราชโองการ ยกขึ้นเป็นพระราชวัง 1 ใน 19 แห่งของ ประเทศไทย และเป็นพระราชวัง 1ใน 6 แห่งที่สร้างขึ้น ตามหัวเมือง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 เป็นพระราชวังที่ สร้างจากไม้ทั้งหลัง สวยงามาก เพื่อเป็นอนุสรณ์ ในการเสด็จประทับแรมของพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิง ประวัติศาสตร์ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนองอีกด้วย
 รายละเอียด
ติดต่อเข้าชมได้จากเจ้า หน้าที่ เทศบาลเมืองระนอง โทร.077 811422 ในวันจันทร์ –วันศุกร์ เวลา 08.30 น. – 17.30 น. เว้นวันหยุดราชการ


































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น